วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2535
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2535 ประกาศโดย นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เป็นแผนที่ได้ปรับปนุงมาจากแผนการศึกษา พ.ศ.2520 เพื่อให้ระบบการศึกษาสนองตอบความต้องการและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างรวดเร็วและสร้างความสมดุลในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดการศึกษาในระบบ 6:3:3 โดยมุ่งจัดการศึกษาที่เน้นการพัฒนาบุคคลใน 4 ด้าน อย่างสมดุลและกลมกลืนกัน คือ ด้านสติปัญญา ด้านจิตใจ ด้านร่างกาย และด้านสังคม ตลอดจนมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพและสามารถพึ่งตนเองได้
ที่มา : www.onec.go.th/plan/surang/16p.pdf
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524)
1. สาระสำคัญ
1.เน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 โดยขยายการผลิต การลงทุน และเพิ่มการจ้างงานให้สูง
2.เน้นการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม โดยเร่งกระจายรายได้ให้ทั่วถึงและยกฐานะทางเศรษฐกิจของเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และคนยากจน
3.ปรับปรุงคุณภาพของประชากร โดยลดอัตราการเพิ่มของประชากรให้เหลือเพียงร้อยละ 2.1 ต่อปี เมื่อสิ้นแผน
4.ปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทาง เศรษฐกิจสูงสุด
2. อุปสรรคและผลที่ได้รับเมื่อสิ้นแผน
1.สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกยังไม่ดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้แก่ การขึ้นราคาน้ำมันของกลุ่ม OPEC ทำให้สินค้ามีราคาสูง เกิดภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง ตลอดจนรายจ่ายภาครัฐบาลสูงขึ้นเป็นผลให้การขาดดุลการค้ากับต่างประเทศสูงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
2.สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนด้านกัมพูชา ทำให้รัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายทางการทหารและความมั่นคงมากขึ้น
3.ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศกระเตื้องขึ้นกว่าในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 การผลิตโดยส่วนรวมขยายตัวตามเป้าหมาย และการลดอัตราการเพิ่มของประชากรก็อยู่ในเกณฑ์ ที่กำหนดเช่นกัน
วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554
กิจกรรมมอบประกาศนียบัตร
โรงเรียนบ้านดู่ ตำบลประดู่ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2553 บรรยากาศการรับใบประกาศนียบัตรเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจของคณะครู นักเรียน ตลอดทั้งผู้ปกครองที่ร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว
วันนี้ที่รอคอย ดีใจจัง....จบแล้วค่ะ/ครับ
วันนี้ที่รอคอย ดีใจจัง....จบแล้วค่ะ/ครับ
วันแห่งความสำเร็จ
ครูมณีเนตร พวงธรรม รับเกียรติบัตร จากนายเสอดพัฒน์ พัฒนมณี
รองผู้อำนวยการ สพป.สุรินทร์ เขต 1 เนื่องในกิจกรรมวันสำเร็จ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อชื่นชมยินดีกับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาตลอดทั้งยังเป็นการมอบรางวัลให้ครูที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานจนเกิดความสำเร็จ
รองผู้อำนวยการ สพป.สุรินทร์ เขต 1 เนื่องในกิจกรรมวันสำเร็จ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อชื่นชมยินดีกับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาตลอดทั้งยังเป็นการมอบรางวัลให้ครูที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานจนเกิดความสำเร็จ
คณะครูโรงเรียนบ้านดู่ ตำบลประดู่ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
ร่วมถ่ายภาพกับ นายเสอดพัฒน์ พัฒนมณี รองผู้อำนวยการ สพป.สุรินทร์ เขต 1
กิจกรรมการแสดงในงานวันสำเร็จ
ครูมณีเนตร พวงธรรม ถ่ายรูปร่วมกับนักเรียนโรงเรียนบ้านดู่ ตำบลประดู่ อำเภอสำโรงทาบ
จังหวัดสุรินทร์ ก่อนทำการแสดง
การแสดงของหนูๆชั้นอนุบาล...ลูกใครหนอ
การแสดงชุดเซิ้งแหย่ไข่มดแดง ของนักเรียนชั้น ป.4-6
การรำแกลมอ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-2
วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Cooperative Learning)
ความหมาย
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ หมายถึงกระบวนการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกันออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีการทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นการจัดการเรียนการสอนไม่ใช่วิธีการสอน การเรียนแบบร่วมมือเป็นวิธีการที่เน้นการจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็กแต่ละกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความสามารถต่างกัน แต่ละคนจะต้องมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างแท้จริงและในความสำเร็จของกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการแบ่งปันทรัพยากรการเรียนรู้ เป็นกำลังใจแก่กันและกัน สมาชิกในกลุ่มไม่เพียงแต่รับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเองเท่านั้น แต่จะต้องรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม ความสำเร็จของแต่ละบุคคลคือความสำเร็จของกลุ่ม
วัตถุประสงค์
1. เป็นวิธีการที่พัฒนาผู้เรียนในด้านวิชาการและทักษะทางสังคม
2. เป็นการเตรียมผู้เรียนให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข
องค์ประกอบสำคัญ
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. การมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางบวก (Positive Interdependence)
2. การปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดระหว่างการทำงานกลุ่ม (Face to Face Promotion Interaction)
3. การตรวจสอบความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละคน (Individual Accountability)
4. การใช้ทักษะระหว่างบุคคลและทักษะการทำงานกลุ่มย่อย (Interdependence and Small Group Skills)
5. กระบวนการกลุ่ม (Group Process)
นักการศึกษาได้พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้อย่างหลากหลาย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2544 : 106 128) กล่าวไว้ดังนี้
1. ร่วมหัวร่วมคิด (Number Heads) เป็นรูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอนที่จัดให้ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่ม โดยแบ่งกลุ่มจำนวน 4 – 6 คน แบบคละความสามารถ
3. คิดคู่สลับคู่คิด (Think – Pair – Square) เป็นวิธีการที่ให้สมาชิกในกลุ่มมีโอกาสจับคู่ร่วมกันคิด อภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ในประเด็นที่ศึกษาอย่างทั่วถึง
4. เล่าเรื่องรอบวง (Round robin) เป็นวิธีการที่เปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนเล่าประสบการณ์ความรู้ในประเด็นที่ศึกษาโดยใช้เวลาที่เท่ากัน
5. อัศวินโต๊ะกลม (Round Table) เป็นวิธีการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้สมาชิแต่ละคนหมุนเวียน หรือผลัดกันเขียนประเด็นที่ศึกษาหนึ่งคำตอบลงบนแบบบันทึกตามลำดับทีละคน
6. จุดร่วมในความต่าง (Compare and Contrast) เป็นวีการที่ใช้ฝึกทักษะการจำแนก โดยให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษาวิเคราะห์หาความเหมือนและความแตกต่างจากประเด็นที่ศึกษาอย่างน้อย 2 ประเด็น โดยบันทึกผลการวิเคราะห์ลงในแผนภูมิความสัมพันธ์ (Venn Diagram)
7. ร่วมเรียน – ร่วมรู้ (Learning Together : LT) เป็นวิธีการที่เหมาะสมกับเนื้อหากิจกรรมการเรียนที่มีลำดับขั้นตอนแน่นอน ผู้เรียนทำงานร่วมกันภายในกลุ่ม โดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างเด่นชัด เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานกลุ่ม
8. สืบค้นเป็นกลุ่ม (Group Investigation : GI) เป็นวิธีการที่เน้นการศึกษาค้นคว้า และสืบเสาะหาความรู้ในเรื่องที่สนใจร่วมกัน โดยใช้กระบวนการกลุ่ม ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดสิ่งที่จะเรียน และร่วมกันวางแผนจัดกระบวนการเรียน
9. สืบเสาะ/ค้นหา/มาร่วมกลุ่ม (Co – op Co – op) เป็นวิธีการที่เน้นการศึกษาค้นคว้า สืบเสาะหาความรู้ โดยมีผู้เรียนควบคุมกันเองในการเลือกหน่วยการเรียนหน่วยใหญ่ และผู้เรียนต้องแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อย่อย ๆ กันเองในกลุ่ม
ข้อเสนอแนะ การนำการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมาใช้ควรดูให้เหมาะสมไม่ใช่ทำทุกชั่วโมง แล้วก็คิดว่าเป็นการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ที่มา : http://www.wijai48.com/learning_stye/experince_learning/Cooperative_Learning.htm
สรุปโดย นางสาวมณีเนตร พวงธรรม นักศึกษาปริญญาโท สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ที่มา : http://www.wijai48.com/learning_stye/experince_learning/Cooperative_Learning.htm
สรุปโดย นางสาวมณีเนตร พวงธรรม นักศึกษาปริญญาโท สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)